ร้านลุงชวนสวนป้าติ๋ว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
หากใครมีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ตัวอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว นอกจากการได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้วหลายๆคนอาจจะนึกถึง “เห็ดโคน” อาหารซึ่งสามารถหามาลองลิ้มชิมรสได้เพียงเฉพาะบางช่วงของปีเท่านั้น และในครั้งนี้เราจะพาทุกๆท่านที่สนใจในการรับประทานเป็นชีวิตจิตฤทัยมาทำความรู้จักกันกับร้านอาหารซึ่งนอกจากจะมีเมนูเห็ดโคนอร่อยๆแล้วยังมีรายการอาหารอันโอชะเมนูอื่นๆให้เลือกอีกหลากหลายแถมตกแต่งร้านได้อย่างสวยงาม สบายตา สบายใจอีกด้วย
บ้านลุงชวน – สวนป้าติ๋ว ร้านอาหารบรรยากาศดีที่รายล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ จัดวางโต๊ะอาหารส่วนใหญ่ไว้ภายในสวนขนาดย่อมแซมประดับด้วยสายธารประดิษฐ์และน้ำพุตามจุดต่างๆอย่างลงตัว อากาศถ่ายเทสะดวก เย็นสบายแม้อยู่ภายใต้แสงแดดยามบ่ายอันร้อนแรง และถึงแม้ว่าการตกแต่งโดยรวมของร้านจะมีความเหมาะเจาะมากอยู่แล้ว แต่ทางร้านก็ยังคงมีห้องแอร์ไว้คอยบริการผู้ที่ไม่พิสมัยที่จะใช้เวลาในการรับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากความสวยงามของอาคารสถานที่แล้ว การบริการของบ้านลุงชวน – สวนป้าติ๋วต้องถืดว่าอยู่ในระดับดีกว่ามาตรฐานการบริการของสวนอาหารทั่วไปอีกด้วย โดยตั้งแต่แรกย่างเข้าสู่ร้าน คุณจะได้พบกับคุณลุงสวมแว่นผมขาวบางๆเดินออกมาต้อนรับทักทายและเชื้อเชิญให้เข้าไปหาที่นั่งในร้านอย่างเป็นกันเอง คนๆนั้นก็คือ คุณลุงชวนนั่นเอง ภายหลังจากที่คุณหย่อนบั้นท้ายลงนั่งที่โต๊ะที่คุณได้เลือกแล้ว ป้าติ๋ว หญิงวัยกลางคน(ค่อนข้างไปทางสูงอายุ)สวมแว่นก็จะออกมาต้อนรับทักทายหลังจากที่แวะเวียนเยี่ยมเยือนแขกที่เข้ามานั่งโต๊ะอื่นๆก่อนหน้าคุณเรียบร้อยแล้ว สร้างความประทับใจแรกพบให้กับร้านได้อย่างไม่ยากเย็นเลยทีเดียว(ทีมงานไม่เคยมีการแจ้งล่วงหน้ากับทางร้านว่าจะเข้ามาเก็บข้อมูล...จะมีการแจ้งต่อเมื่อรับประทานอาหารและชำระค่าเสียหายเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น)
หลังจากนั่งพินิจพิจารณารายการอาหารในเมนูอยู่สักครู่ทีมงานก็ได้ตัดสินใจสั่งรายการอาหารดังต่อไปนี้
1.ต้มยำเห็ดโคน แน่นอนว่าทีมงานไม่มีทางพลาดเมนูจากเห็ดโคนชัวร์ ไม่นานเกินไปนักต้มยำเห็ดโคนน้ำใสก็ถูกยกมาจัดวางไว้ต่อหน้าให้ทีมงานได้ลงมือกระทำชำเรา.....เอ๊ย!!!.....ขออภัย....ชำระโทษ....เจ้าเห็ดโคนท่อนอวบๆหลากหลายขนาดทั้งเล็กทั้งใหญ่คละเคล้ากันไปใส่ให้มาในชามต้มยำแบบไม่หวงแหนทรัพยากรเลย(เพราะทางร้านเก็บเงินค่าทรัพยากรอยู่แล้วไม่ได้ให้กินฟรี....เลยไม่มีความจำเป็นต้องหวง) น้ำต้มยำรสชาติกลมกล่อมกำลังดีไม่เผ็ดร้อนเกินไปจนลวกปาก ไม่เปรี้ยวและไม่เค็มจนเสียรสอร่อยอันสมดุลย์ เคี้ยวกลืนพร้อมกับเห็ดโคนเนื้อแน่น หยุ่นกำลังดีไม่มีกลิ่นสาบดินโคลนใดๆ ขอบอกว่าต้องยกนิ้วยอดเยี่ยมให้จริงๆสำหรับเมนูนี้
2.น้ำพริกดอกหลายๆดอก เนื่องจากน้ำพริกสะเปะสะปะอันเป็นเมนูน้ำพริกที่มีชื่อเสียงของทางร้านนั้นมีคนอื่นๆชิมกันเยอะแล้วทีมงานจึงอยากที่จะลองเมนูชื่อแปลกๆอื่นแทน ภายหลังจากได้รับคำอธิบายจากพนักงานรับออร์เดอร์แล้วว่า น้ำพริกดอกหลายๆดอกก็คือ การนำดอกไม้ชนิดต่างๆมาชุบแป้งทอดแล้วรับประทานร่วมกับน้ำพริกเผา เราก็เลยลองสั่งมาด้วยเหตุว่าอยากลองกินดอกไม้ชุบแป้งทอดสักหน่อย หากแต่เราก็ต้องผิดหวังเล็กน้อยเมื่ออาหารถูกยกมาเสิร์ฟตรงหน้าเพราะว่าดอกไม้ชุบแป้งทอดนั้นมีแค่ดอกกล้วยไม้เป็นตัวชูโรงเท่านั้น ส่วนดอกอื่นๆหาไม่เจอนอกจากข้าวโพดอ่อน แครอท หน่อไม้ฝรั่งและถ้าดูไม่ผิดน่าจะเป็นใบกระเพรา(หรือดอกขจร?ไม่แน่ใจ....แต่สังเกตแล้วไม่เห็นส่วนไหนเป็นดอกเห็นแต่ใบอ่ะ)ชุบแป้งทอดเท่านั้นซึ่งไม่แปลกจนเป็นเอกลักษณ์ได้ใจเราเท่าไหร่สำหรับรายการอาหารจานนี้ แต่หากคุณอยากทราบว่ารสชาติของอาหารรายการนี้เป็นอย่างไรล่ะก็ เราคงต้องยอมรับว่าอร่อยแน่นอนกับผักชนิดต่างๆและดอกกล้วยไม้ที่ชุบแป้งทอดจนกรอบ ไม่มีความเหนียวหนืดใดๆจิ้มกับน้ำพริกเผาที่หวานเผ็ดและหอมกรุ่น เหมาะสำหรับเด็กๆที่อาจรับประทานผักได้ยากและเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบผักชุบแป้งทอดเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกเผาเหลือมากพอนำมาคลุกกับข้าวสวยทานได้สบายๆเพราะทางร้านใส่น้ำพริกเผามาให้ในครกหนึ่งครกเล็กๆเลย
3.ปลาคังทอดขมิ้น อุตส่าห์มาถึงเมืองกาญจนบุรีทั้งทีจะไม่มีการชิมเมนูอาหารที่ทำจากปลาคังก็กระไรอยู่ จานนี้อร่อยกับปลาคังหั่นขวางเป็นชิ้นๆทอดกับขมิ้นจนสีเหลืองนวลอร่ามงามตา รสออกเค็มนิดๆกินกับข้าวสวยร้อนๆเข้ากันดี เป็นอีกเมนูที่อร่อยและแนะนำให้ลองสั่งมาชิมกันดูได้ไม่ผิดหวัง
4.หมูตีแปลง โดดเด่นด้วยชื่อแต่แท้จริงแล้วมันคือ หมูชุบแป้งทอดราดมายองเนสโปะมาบนใบมะกรูดหั่นตามยาวแล้วทอดจนกรอบ(ใบมะกรูดไม่ได้ชุบแป้งทอด)ใช้กินแกล้มดับความเลี่ยนของหมูทอด ต้องตักเข้าปากแล้วเคี้ยวทั้งสองอย่างพร้อมๆกันจะได้กลิ่มหอมสมุนไพรอบอวลอยู่ภายในปาก อร่อยพอควรแต่เนื้อหมูนั้นค่อนข้างจะแห้งไปสักนิด รสชาติไม่โดดเด่นเหมือนชื่อเท่าไหร่นักสำหรับจานนี้
สำหรับรายการอาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของทางร้านที่ตอนนี้หารับประทานไม่ได้แล้วนั่นก็คือ เป็ดแดดเดียว เนื่องจากปัจจุบันทางร้านไม่ได้รับเป็ดมาเพื่อทำเป็ดแดดเดียวอีกแล้ว(ข้อมูล ณ ตุลาคม 2551) ในส่วนของราคาอาหารนั้นเป็นราคาในระดับมาตรฐานสวนอาหารทั่วๆไปไม่สามารถเรียกได้ว่าถูกแต่ก็ไม่ถึงขั้นแพงเกินไปเช่นกัน มื้อนี้อาหาร 4 อย่าง รวมข้าวและน้ำเปล่าสำหรับสองที่อยู่ที่ราคาประมาณ 790 บาท(โดยรวมๆราคาค่อนข้างเหมาะสมกับบรรยากาศ การบริการ รสชาติและปริมาณของอาหาร ถ้ามองในแง่ของร้านที่เป็นสวนอาหารทั่วๆไปนะครับ แต่ถ้าบางท่านที่เน้นแค่ความถูกและอร่อยไม่ได้เน้นที่บรรยากาศล่ะก็ท่านอาจคิดว่าราคาอาหารที่ร้านนี้แพงเกินไปครับ) ก่อนที่ทีมงานของพวกเราจะเดินทางกลับขณะรอเช็คบิลอยู่นั้น ป้าติ๋วยังสร้างความประทับใจด้วยการเข้ามาสอบถามความพึงพอใจในรสชาติอาหารและขอรับทราบคำติชมอีกด้วย(ตอนนั้นเรายังไม่ได้เปิดเผยตัวกับป้าติ๋วเลยว่าเรามาเก็บข้อมูลไปลงเว็บไซต์ แสดงถึงความใส่ใจของเจ้าของร้านต่อการบริการโดยไม่เลือกลูกค้าจริงๆ)เป็นคุณป้าที่น่ารักมากๆทีเดียวเชียวครับ
บางส่วนของหน้าตาอาหารจานอร่อย ที่ทางทีมงานได้ไปชิมมาจากร้านบ้านลุงชวนสวนป้าติ๋ว |
การเดินทาง จากในอ.เมือง มาจากถนนแสงชูโตด้านตรงไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว ด้านซ้ายมือจะพบทางแยกเข้าถนนนิวซีแลนด์ เลี้ยวขับไปอีกประมาณไม่เกิน 100 เมตร จะเห็นป้ายร้านลุงชวนสวนป้าติ๋ว
คะแนนความพึงพอใจ (หัวข้อละ 10 คะแนน)
ความสะอาด 8.5
รสชาติ 8.0
บรรยากาศ 8.7
ราคาและความคุ้มค่า 7.8
การบริการ 8.8
|
หมายเหตุ
1.การให้ความเห็นและคะแนนเป็นไปตามประสบการณ์ส่วนบุคคลของทีมงานเท่านั้น
บุคคลอื่นอาจมีความคิดเห็นแตกต่างจากนี้ได้
2.คะแนนในหัวข้อราคาและความคุ้มค่า อ้างอิงจากรสชาติ ปริมาณอาหารและความสะอาดเป็นสำคัญ
|
|